ลาจอไปแล้วสำหรับ Alchemy of Souls ในพาร์ทที่ 2 หลังการ ออกอากาศ ตอนสุดท้าย ของเรื่อง อีแจอุค ผู้รับบท จางอุค ได้มาบอกคุยกับสื่อพร้อมกับเล่าเรื่องราวเบื้องหลังต่าง ๆ ในการทำงานเรื่องนี้ รวมไปถึงความประทับใจ กับการทำงานร่วมกับ นางเอก 2คน คือ จองโซมิน และก็ โกยุนจอง
โดยอีแจอุคเผยว่า
การได้ ร่วมงานกับรุ่นพี่ จองโซมิน ที่มีประสบการณ์ การแสดง มาแล้วมากมาย ทำให้ผมได้ศึกษาอะไรหลายอย่างครับ
ส่วนในพาร์ทของ พี่โกยุนจอง เองก็เป็นคนที่ สดใสมากแล้วหลังจากนั้นก็เต็มไป ด้วยพลังบวกเสมอ มันไม่ง่ายเลยนะครับ
ที่จะถ่ายอย่างหนัก ทำได้ตลอด โดยที่รอยยิ้ม ไม่หายไปเลย ทำให้ผมมีความคิดว่าบรรยากาศ ในกองถ่ายนั้น มันสามารถเปลี่ยนไปได้ทันที ด้วยรอยยิ้มของคนผู้เดียว
การเข้ามา เป็นนักแสดงนำ กลางทางในพาร์ทที่ 2 มันไม่ง่ายเลยครับ แต่รอยยิ้มของพี่เขา ก็ไม่เคยหายไปเลย
“อีแจอุค” เผย เคยปฏิเสธบทนำใน Alchemy Of Souls มาก่อน
เหตุผลที่ทีแรก ๆ “อี แจอุค” ปฏิเสธบทนำใน Alchemy Of Souls และนางเอกที่เขาอยากรับรางวัล Best Couple ด้วย
ซีรีส์ Alchemy Of Souls ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งจากพาร์ทแรกแล้วก็พาร์ทสองที่มาเติมเต็มเรื่องราวที่แฟนคลับอยากรู้ให้สมบูรณ์มากขึ้น
เป็นซีรีส์ที่เกี่ยวกับชะตาของคนที่สลับเปลี่ยนด้วยการสลับวิญญาณที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจนกระทั่งคว้าเรตติ้งไปได้มากถึง 9.7% ในตอนที่ฉายตอนสุดท้ายของพาร์ทสองจบ
อี แจอุค ผู้รับบทพระเอกในซีรีส์ Alchemy Of Souls ทั้งสองพาร์ท ให้สัมภาษณ์กับ Xportsnews ว่า “ครั้งแรกที่ผมอ่านบท ผมรู้สึกปั่นป่วนไปหมด อย่างที่ทุกคนรู้ว่าซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากที่ติดตั้งยาก ๆ และก็สถานการณ์ต่าง ๆ ที่ดูเสมือนนิยายมาก ๆ จนคิดไม่ออกเลยว่าถ้าเอามาถ่ายทำจริง ๆ จะเป็นอย่างไร เป็นบทซีรีส์ที่แปลกใหม่มาก ๆ ครับ”
นอกจากนั้นยังเผยอีกว่า “บอกตามตรงว่า ทีแรก ๆ ผมปฏิเสธบทนี้ไปแล้วครับ มันยากเกินไป แล้วก็ผมก็สงสัยว่าตนเองจะถ่ายทอดบทนี้ออกมาให้ดีได้อย่างไร แต่ผมก็มาคิดดูอีกทีว่าผมเองก็อยากลองท้าทายตนเองกับอะไรใหม่ ๆ จากมุมมองของนักแสดงแล้ว ผมว่าสุดท้ายผลงานก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจอยู่นะ นอกเหนือจากนั้นผมก็มีความรู้สึกว่านี่ก็ไม่ใช่ซีรีส์ที่จะได้มารับบทกันได้บ่อย ๆ การได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีกับผมมาก ๆ ครับ”
สำหรับบทของเขาทั้งยังในพาร์ทแรกและพาร์ทที่สอง
“ผมรู้สึกว่าความแตกต่างระหว่างตัวละครของผมในพาร์ทแรกรวมทั้งพาร์ทที่สองค่อนข้างจะชัดเจนนะ ตอนที่ผมอ่านบทกับนักเขียนบท ทีมงานก็คาดหวังจะให้ผมมีความคิดว่าตัวละครทั้งสองตัวนี้เหมือนเป็นคนละคนกันไปเลย ในพาร์ทสองผมเลยเปลี่ยนโทนเสียงในการบอกของจางอุคอย่างสิ้นเชิง และก็พยายามกล่าวให้กระชับรวมทั้งหนักแน่นกว่าที่ผมว่าตามปกติในชีวิตประจำวันครับ”
ยิ่งไปกว่านี้ยังแสดงความเห็นที่มีต่อซีรีส์ที่มีการเปลี่ยนตัวนางเอกในพาร์ทที่สองด้วยว่า
“การเปลี่ยนบทนางเอกเป็นคนนึงในพาร์ทสองไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผมเลยครับ”
“ตอนเริ่มถ่ายทำ โซมินเค้าเคยมีประสบการณ์มาหลากหลายเรื่องแล้ว ความสามารถพื้นฐานของเธอเลย แสดงออกมาให้มองเห็นอย่างแจ้งชัดระหว่างที่กำลังถ่ายทำ เธอเป็นนักแสดงมือโปรมาก ๆ ”
“สำหรับยุนจอง เธอเป็นคนที่เบิกบานมาก ๆ ถึงจุดที่ว่าพลังงานบวกของเธอคือสุด ๆ ไปเลย มันยากมาก ๆ ที่จะถ่ายทำโดยปราศจากรอยยิ้ม เธอทำให้ผมมีความรู้สึกว่า
‘บรรยากาศทั้งหมดเปลี่ยนไปเนื่องจากแค่คน ๆ เดียว’ ผมว่านั่นเป็นจุดแข็งของเธอเลยล่ะ ในความเป็นจริงแล้วมันคงจะยากมาก ๆ ที่จะมาแสดงในพาร์ทสอง แต่เธอก็ยังคงยิ้มอยู่ตลอดเวลา”
เมื่อถูกถามว่า อยากจะรับรางวัล Best Couple กับใคร เขาตอบว่า “ผมเห็นแค่คน ๆ เดียวเลยครับ ผม กับ เจ้าชายของผม (ชินซึงโฮ)”
โดย เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า เขาทั้งสองคนมีฉากหลุด ๆ ด้วยกันเยอะแยะมาก แล้วยัง ต่อบทสด ๆ ด้วยกัน ในระหว่างถ่ายทำบ่อยมาก อีกด้วย
“ฉากที่ผมเจอ กับซึงโฮ มักจะด้นบทสด กันอยู่เสมอ ๆ ครับ มันเป็น สกิลอย่างหนึ่ง ที่จะมีผลให้ตัวละคร สามารถแสดงออกมา ได้อย่างแนบเนียน และเหมือนจริงไปกับสถานการณ์ในเรื่องได้
แล้วซึงโฮก็ทำได้ดีมาก ๆ นึกถึงเขาทีไรก็ชอบมีแต่เรื่องขำขันระหว่างที่พวกเรากำลังด้นสดกันอยู่เป็นประจำเลยครับ”
ดู Alchemy Of Souls ทั้งสองพาร์ทได้แล้ววันนี้ที่ Netflix